หากเปรียบมนุษย์เราเหมือน "หนังสือ"

 

          เผอิญช่วงนี้มีหลากหลายเรื่องราวที่เข้ามาในชีวิต ซึ่งหลายๆ เรื่องก็ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเรา แต่บางครั้งก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า เอ๊ะ! ทำไมชีวิตของคนๆ หนึ่ง ถึงต้องพบเจอกับอุปสรรคปัญหาอะไรมากมาย กอปรกับได้อ่านหนังสือปัญหา+ปันหา เป็นยาวิเศษ ของคุณกรรณิกา ธรรมเกษร (ไม่รู้เกี่ยวกันไหม?)  ซึ่งเนื้อหาสาระในหนังสือก็พยายามบอกว่าอย่ากลัวปัญหา อย่าหนีปัญหา จงแก้ปัญหาด้วยปัญญา เพราะทุกปัญหาคือยาวิเศษ ประมาณว่ายิ่งปัญหาเยอะยิ่งทำให้เรามีปัญญาเยอะไปด้วย (หากแก้ปัญหานั้นได้..แม้จะมืดมากี่ด้านก็ผ่านไปได้สบาย อันนี้เพิ่มให้เจ๊า)


          ถ้าให้เราเปรียบชีวิตของตนเองกะหนังสือสักหนึ่งเล่ม  เราจะเลือกเป็นหนังสือแบบไหน?? หนังสือที่ปกสวยงาม แต่ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรเลย  หรือหนังสือปกไม่สวย แต่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาสาระ หรือหนังสือที่ปกสวยงาม มีเนื้อหาสาระดีเยี่ยม  หรือหนังสือที่ปกไม่สวย  ไม่มีอะไรน่าสนใจ ประมาณว่าหากวางอยู่บนแผงหนังสือ ใครๆ ก็คงมองผ่าน  และไม่สนใจที่จะหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน แถมเรื่องราวในหนังสือนั้น คงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา และเรื่องราวทุกข์ร้อนใจ แต่ทั้งหมดในหนังสือนั้น ก็คือ ประสบการณ์ชีวิต


          ชีวิตของคนๆ หนึ่งสามารถนำมาเขียนเป็นหนังสือได้หลายๆ เล่ม  ซึ่งภายในหนังสือก็จะมีสารบัญการดำเนินชีวิตที่ผ่านมา บางบทบางช่วงเวลาของชีวิตก็มีเนื้อหาสาระสำคัญบ้าง  แต่บางบทบางช่วงของชีวิตก็ไม่มีอะไรให้เป็นสาระน่าจดจำเลย (แม้พยายามจะนึก ก็นึกไม่ได้ หรือไม่พยายามจะจดจำสิ่งนั้นเอง)…อย่างไรก็ตามประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาถือเป็นตำราหรือบทเรียนชีวิตที่สอนให้เราเข้มแข็ง และก้าวเดินไปในทางที่ถูกต้องได้  อะไรที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป  เลือกจดจำในสิ่งที่ดี ไม่จมอยู่กับอดีต เพราะเราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ อยู่กับปัจจุบัน  และทำทุกอย่างให้ดีที่สุด  วันนี้ก็คือรากฐานของวันพรุ่งนี้  ส่วนพรุ่งนี้ก็คืออนาคตที่เรายังไม่อาจคาดเดาได้.....ดังพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า อะตีตัง  นานวาคะเมยยะ ก็คืออย่าคำนึงถึงอดีตผ่านไปแล้ว  นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง  อนาคตนั้นยังมาไม่ถึง  เหตุที่พระองค์ทรงตรัสห้ามเช่นนั้น ก็เพื่อต้องการให้เราอยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด (อัชเชวะ กิจจะมาตัพพัง)  ถึงแม้จะมองอดีตก็ให้มองให้เป็น กล่าวคือ มองให้เป็นบทเรียน ข้อผิดพลาดให้สำเหนียกไว้เพื่อป้องกันระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีกในกาลภายหน้า  อย่างที่นักปราชญ์ประพันธ์ไว้ว่า...
อย่าคำนึงถึงอดีตผ่านไปแล้ว
อนาคตนั้นยังคงมาไม่ถึง
ปัจจุบันนั้นสิควรคำนึง
พึงกะเกณฑ์รีบทำประจำวันฯ
             ถึงตอนนี้เราเลือกได้หรือยังว่าจะอยู่กับอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต...เราเลือกได้หรือยังว่าอยากจะเป็นหนังสือแบบไหนดี

สติมา  นารีนุช
นักวิชาการศึกษา